เริ่มต้นปีใหม่มาได้สักระยะ วันนี้สถานการณ์โลกในปัจจุบันก็คลี่คลายลงไปมากจาก การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid -19 วันนี้ทาง Paragon Land จะมาสรุปเทรนด์สีในปีนี้ มาให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน โดย เทรนด์สีในปี 2023 นี้ มีทั้งหมด 7 สี โดยอ้างอิงจาก ‘เจาะเทรนด์โลก 2023’ (Trend Book) โดยนิตยสาร “คิด” Creative Thailand ซึ่งในปี 2023 นี้มาในธีม “CO-TOPIA” เพื่อสื่อถึง “วันนี้นั้น ดีกว่าเมื่อวาน” เพราะโอกาสเกิดขึ้นจากอุปสรรค เราจึงจำเป็นต้องคว้าช่วงเวลาที่จะได้สร้างประตูบานใหม่ พร้อมกับหลอมรวมโลกและผู้คนให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยการพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อสร้างวันพรุ่งนี้ที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
สีเหลืองอ่อน : Elfin Yellow
สีเหลืองอ่อนหมายถึง ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ความสุขสันต์ สุขสำราญ ยังคงได้รับความนิยมอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความเรียบง่าย ไม่หวือหวาเหมือนสีกระแสหลักทั่วไป และยังสื่อถึงความอบอุ่น อ่อนโยน สามารถจับคู่กับสีอื่นได้เป็นอย่างดี
สีส้มแอปริคอต : GOLDEN APRICOT
โทนสีสุดฮิตสไตล์ Retro ในยุค 80 ทำให้เราหวนกลับไปคิดถึงอดีตอันหอมหวาน ให้ความรู้สึกอบอุ่น สนุกสนาน อิสระ สื่อถึงการย้อนคืนสู่อดีต เมื่อผสมผสานกับโลกยุคปัจจุบันจะทำให้รู้สึกถึงความสนุกสนาน มีอิสระ ขณะเดียวกันยังแฝงไปด้วยความโรแมนติก อบอุ่น เรียกได้ว่าเป็นโทนสีที่ให้ความรู้สึกหลากหลายในเวลาเดียวกัน
สีเขียวมะนาว : LIME GREEN
ทำให้ความรู้สึกสดใส เจิดจ้า มีชีวิตชีวา ภายในห้อง และสื่อถึงการท้าทายค่านิยมของคนรุ่นใหม่ เป็นสีที่เชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อมและสุนทรียภาพบนโลกดิจิทัล หรือหมายถึงการท้าทาย ค่านิยมเดิมๆ และถูกนำมาใช้ในงานออกแบบมากขึ้นอีกด้วย
สีเขียวอมฟ้า : DEEP LAKE
สีที่อยู่ตรงกลางระหว่างสีเขียวและสีน้ำเงิน เป็นตัวแทนของการหวนนึกถึงอดีต แต่สีนี้ถูกตีความใหม่ว่าเป็นความสดใสของคนรุ่นใหม่ที่มีความก้าวหน้า และให้ความรู้สึกบางเบาแต่สว่างชัดเจน ชวนให้นึกถึงองค์ประกอบของอากาศและน้ำ ที่สะท้อนถึงความนิ่งและความเงียบสงบ สีนี้ถูกนำมาใช้ในตลาดเสื้อผ้าสตรีพรีเมียม ช่วยแสดงออกถึงความเป็นแฟชั่นที่มีมิติและร่วมสมัยอีกด้วย ให้ความรู้สึกถึงการเปิดใจ ความหวัง ผ่อนคลาย ช่วยฟื้นฟูจิตใจ แต่ยังคงความจริงจัง และยังมีความลึกลับน่าค้นหา บวกกับความหรูหรา
สีแดงก่ำ : SCARLET SAGE
เป็นการกลับมาของสีโทนสดใสที่มีความดึงดูดทางด้านอารมณ์ มอบทั้งความรู้สึกทรงพลัง ความปรารถนา หรือแม้แต่ความหลงใหล ในแง่ ของการออกแบบสีนี้เป็นตัวกลางที่ใช้ในการสื่อสารการออกแบบภายนอกและภายในอาคาร เพื่อสร้างแรงดึงดูดและโครงสร้างเฉพาะตัวที่เทียบเท่ากับงานศิลปะอีกด้วย ความดึงดูด น่าหลงใหล สื่อถึงการสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่
สีม่วงเข้ม : PHLOX
ให้ความรู้สึกที่เหนือจริง ลึกลับ และน่าค้นหา สื่อถึงโลกยุคดิจิทัลที่กำลังถูกพัฒนา มอบความรู้สึกสงบ มั่นคง และสมดุล แถมยังเป็นสีที่แสดงออกถึงเรื่องสุขภาพและการรักษาเยียวยา ซึ่งมีความสำคัญต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และโทนสีม่วงเป็นอีกหนึ่งโทนสีที่มาแรงมากและยังคงมีบทบาทสำคัญกับเทรนด์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สีดำเทา : MOONLESS NIGHT
ให้ความรู้สึกที่ชัดเจน ซื่อตรง หรูหรา เย้ายวน สื่อถึงพลังการเปลี่ยนแปลงที่ดีแม้มีอุปสรรค เรียกได้ว่าสีดำนับเป็นหนึ่งในสีสุดคลาสสิกที่ได้รับความนิยมอยู่ตลอดมาและมักเป็นตัวแทนของความลึกลับ การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับปี 2023 คาดการณ์กันว่าเฉดสีนี้จะถูกนำมาใช้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งมีนัยยะถึงความยั่งยืน และแคมเปญเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เช่น การแก่ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สิทธิ ความเท่าเทียมของ LGBTQIA+ รวมถึงในเชิงสังคมหลากหลายแง่มุม
อ่านบทความจาก Creative Thailand : https://www.facebook.com/creativethailand/posts/pfbid0299yNUnZfSbkpnHikJ2oRUkShyiveaERMGVvWdLYavJobTdAMa1A3oZhoaUdVi23Al
